รถไฟ
รถไฟ (อังกฤษ: Train) เป็นกลุ่มของยานพาหนะที่เคลื่อนที่ไปตามรางเพื่อการขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง รางส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยราง 2 เส้นขนานกัน แต่ยังหมายรวมถึงประเภทรางเดี่ยวหรือประเภทที่ใช้พลังแม่เหล็กด้วย รถไฟจะขับเคลื่อนด้วยหัวรถจักรหรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หลายๆตัวที่ติดอยู่ใต้ท้องรถ รถไฟสมัยใหม่จะใช้กำลังจากหัวรถจักรดีเซลหรือจากไฟฟ้าที่ส่งมาตามสายไฟที่อยู่เหนือตัวรถหรือตามรางสาม (Third Rail) เดิม รถไฟขับเคลื่อนโดยใช้หม้อต้มน้ำทำให้เกิดไอน้ำ ไอน้ำทำให้เกิดแรงดัน แรงดันจะทำการขับเคลื่อนกลไกทำให้ล้อรถไฟเคลื่อนที่ได้ การที่ใช้ฟืนเป็นแหล่งพลังงานในการต้มน้ำ และฟืนที่ทำให้เกิดเปลวไฟ ทำให้เรียกรถชนิดนี้ว่า รถจักรไอน้ำ
ประวัติ
รถไฟเริ่มเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณสามร้อยปีมาแล้ว เดิมทีเดียวสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรทุกถ่านหิน รถนั้นมีล้อ แล่นไปตามรางและใช้ม้าลาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2357 จอร์จ สตีเฟนสัน (George Stephenson) ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำ ชื่อว่า ร็อคเก็ต (Rocket)ซึ่งสามารถแล่นได้ด้วยตนเองเป็นผลสำเร็จ นำมาใช้ลากจูงรถแทนม้าในเหมืองถ่านหิน ภายหลังจากนั้นก็ได้มีผู้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำและรถจักรชนิดอื่นๆ ขึ้นอีกหลายแบบ รถไฟได้เปลี่ยนสภาพจากรถขนถ่านหินมาเป็นรถสำหรับขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ดังเช่นในปัจจุบัน
กิจการรถไฟของไทยนั้น ได้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2429 ตรงกับรัตนโกสินทร์ศกที่ 105 ไทยได้ให้สัมปทานแก่บริษัทชาวเดนมาร์กสร้างทางรถไฟสายแรกจากกรุงเทพมหานคร ถึงสมุทรปราการ เป็นระยะทาง 21 กิโลเมตร ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าให้ตั้งกรมรถไฟหลวงขึ้น โดยสังกัดกระทรวงโยธาธิการ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระองค์เสด็จประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่าง กรุงเทพมหานครถึงอยุธยา เป็นระยะทาง 71 กิโลเมตร ซึ่งทางการได้ถือเอาวันนี้เป็นวันสถาปนากิจการรถไฟหลวง ปัจจุบันทางรถไฟที่สำคัญของประเทศไทยมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นรวมสี่สาย คือ สายเหนือ ถึงจังหวัดเชียงใหม่และสุโขทัย สายใต้ ถึงประเทศมาเลเซีย สายตะวันออก ถึงจังหวัดสระแก้ว และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและอุบลราชธานี รวมเป็นระยะทาง 3,855 กิโลเมตร
ประเภทของรถจักร
ในโลกมีรถจักรอยู่หลากหลายประเภท แต่รถจักรประเภทหลักๆที่มีใช้อยู่หลากหลายในโลก คือ
- รถจักรไอน้ำ (Steam Locomotive) ใช้พลังแรงดันสูงจากไอน้ำอันเกิดจากน้ำต้มเดือด ในการดันลูกสูบเพื่อหมุนล้อ ปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว
- รถจักรดีเซล (Diesel Locomotive)แบ่งออกเป็น
- รถจักรดีเซลการกล (Diesel-Mechanical Locomotive) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลโดยตรงในการขับเคลื่อนล้อ ปัจจุบันแทบไม่มีแล้ว
- รถจักรดีเซลไฮดรอลิก (Diesel-Hydraulic Locomotive)
- รถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel-Electric Locomotive) ใช้เครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดไฟฟ้านำไปหมุนมอเตอร์ลากจูง (Traction Motor:TM)เป็นรถจักรดีเซลที่มีใช้การมากที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง]
- รถจักรไฟฟ้า (Electric Locomotive) ใช้ไฟฟ้านำไปหมุนมอเตอร์ลากจูง (Traction Motor:TM) เป็นรถจักรที่มีกำลังสูงมากกว่าประเภทอื่นๆ[ต้องการอ้างอิง]นอกจากนี้ ยังมีรถโดยสารที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ได้แก่
- รถดีเซลราง (Diesel Multiple Unit:DMU) เป็นรถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังดีเซล ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยดีเซลการกล หรือดีเซลไฮดรอลิก
- รถรางไฟฟ้า (Electric Multiple Unit:EMU) เป็นรถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซึ่งใช้ไฟฟ้า
รถไฟไทยประเภทต่างๆ
- ขบวนรถด่วนพิเศษ - ให้บริการเฉพาะ ชั้น 1 และ 2 ยกเว้นขบวนรถด่วนพิเศษ 37/38 กรุงเทพ-สุไหงโกลก-กรุงเทพ ที่มีตู้โดยสารชั้น 3 พ่วงด้วย
- ขบวนรถด่วน - ให้บริการทุกชั้น ยกเว้นขบวนรถด่วน 51/52 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ ที่ไม่มีตู้โดยสารชั้น 1 และขบวนรถด่วน 67/68 กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ที่ไม่มีตู้โดยสารชั้น 3
- ขบวนรถเร็ว - ให้บริการเฉพาะชั้น 2 และชั้น 3 ยกเว้นขบวนรถเร็ว 105/106 กรุงเทพ-ศิลาอาสน์-กรุงเทพ เพราะเป็นขบวนรถดีเซลราง
- ขบวนรถธรรมดา - ให้บริการเฉพาะชั้น 2 และชั้น 3 เช่นเดียวกันกับรถเร็ว ยกเว้นขบวนรถธรรมดาบางขบวนที่ใช้รถดีเซลราง เช่น 209/210 กรุงเทพ-บ้านตาคลี-กรุงเทพ ,281/282 กรุงเทพ-กบินทร์บุรี-กรุงเทพ
- ขบวนรถชานเมือง - ให้บริการชั้น 3 บางขบวนอาจจะมีรถชั้น 2 พ่วงมาบ้าง ยกเว้นขบวนรถชานเมือง 355/356 กรุงเทพ-สุพรรณบุรี-กรุงเทพ ,ขบวนรถในสายบ้านแหลม-แม่กลอง และขบวนรถชานเมือง 388/391 กรุงเทพ-ชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพที่เป็นรถชั้น 2 ทั้งขบวน
- ขบวนรถท้องถิ่น - ให้บริการชั้น 3 ส่วนใหญ่จะเป็นรถดีเซลรางชั้น 3 แต่ขบวนรถท้องถิ่นในเส้นทางสายใต้ใช้รถจักรทำขบวน บชส.
- ขบวนรถรวม - ให้บริการทั้งรถโดยสารและสินค้า ในปัจจุบันมีเพียง 4 ขบวนในเส้นทางสายใต้เท่านั้น คือขบวนรถรวม 485/486 ชุมทางหนองปลาดุก-น้ำตก-ชุมทางหนองปลาดุก และขบวนรถรวม 489/490 สุราษฎร์ธานี-คีรีรัฐนิคม-สุราษฎร์ธานี
- ขบวนรถนำเที่ยว - ให้บริการชั้น 3 อาจมีรถปรับอากาศชั้น 2 พ่วงในบางขบวน
- ขบวนรถวิ่งระหว่างเมืองใหญ่ - เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศชั้น 2 ทุกขบวน ยกเว้น ขบวนรถด่วน 75/78 กรุงเทพ-อุดรธานี-กรุงเทพที่มีรถชั้น 3 พ่วงมาด้วย
- ขบวนรถสินค้า - เป็นรถที่ใช้ในการขนส่งสินค้า
องค์ประกอบของการเดินขบวนรถไฟที่สำคัญ
- ทางรถไฟ - ทางที่มีรางเหล็ก 2 เส้น วางขนานกันบนไม้หมอนที่มีหินโรยทางรองรับ ไม้หมอนและรางจะยึดติดกันไว้ด้วยเครื่องยึดเหนี่ยวราง
- รถจักร - ทำหน้าที่ลากจูงรถไฟคันอื่นๆ ให้เคลื่อนที่ไปได้โดย รถจักรมีหลายชนิด ได้แก่ รถจักรไอน้ำ,รถจักรดีเซล,รถจักรไฟฟ้า และ รถจักรกังหันก๊าซ
- รถพ่วง - ได้แก่ รถสำหรับบรรทุกคนโดยสาร ซึ่งเรียกว่า รถโดยสารและรถสำหรับบรรทุกสินค้า ซึ่งเรียกว่า รถสินค้า
- เครื่องอาณัติสัญญาณ - เป็นเครื่องมือควบคุมการจราจรเพื่อความปลอดภัย รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการเดินรถ เช่น เสาสัญญาณชนิดหางปลา (semaphore) ,สัญญาณธงผ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และ ตะเกียงสัญญาณ
อ้างอิง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น